ข้อสอบ TU-GET เป็นข้อสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษที่จัดโดยม.ธรรมศาสตร์ค่ะ แนวข้อสอบคล้ายข้อสอบเอนท์ ถ้าใครทำข้อสอบเอนท์ได้ก็น่าจะสบาย แนวข้อสอบ TU-GET ไม่ได้ลึกลับเหมือนกับข้อสอบ TOEFL ค่ะ แถมยังมีหนังสือให้อ่านมากมาย ถ้าเทียบกับข้อสอบ Toefl แล้วน่าจะง่ายกว่าเยอะเลย เพราะไม่มีฟังเขียน ถ้าเทียบกับ CU-TEP ความยากนั้นพอๆกันค่ะ สำหรับ CU-TEP นั้นจัดโดย ม.จุฬาฯ จะว่าไปแล้วหากมีโอกาสสอบก่อนสมัคร TOEFL ก็จะเป็นการวัดระดับทางภาษาอังกฤษได้ดียิ่งเสมือนทำเสริ์ฟๆไปก่อน
ข้อสอบมี 100 ข้อ 1000 คะแนน ข้อละ 10 คะแนน ( ถ้า 100 ข้อ 100 คะแนนจะไม่ไฮโซ แลดูเด็กๆ เหมือนคะแนนสอบเอนท์ ถ้าคะแนนเยอะๆจะไฮโซ ดู mature เหมือน toefl, toeic ...คิดเองค่ะ)
ข้อสอบแยกเป็น 3 ส่วน เป็น gramma 25 ข้อ vocabulary 25 ข้อ reading 50 ข้อ
สำหรับGramma จะเป็นข้อสอบแนวจับผิดค่ะ ถ้ารู้หลักก็ไม่ยากนะ ต้องดูให้ออกว่า ข้อนี้ต้องการทดสอบอะไร ควรจะดูตรงไหน ถ้าอ่านเยอะก็ไม่น่าจะพลาดค่ะ
ส่วนที่สองเป็นส่วน vocabulary หรือส่วนคำศัพท์ แบ่งออกเป็นอีกสองส่วน ให้เติมคำศัพท์ที่เหมาะสมลงใน passage และ ให้เลือกคำศัพท์ที่ใกล้เคียงกับโจทย์ที่ให้มามากที่สุด ส่วนนี้ศัพท์มักจะมาจากหนังสือพิมพ์นะคะ ถ้าใครเตรียมสอบอยู่ต้องเอาหนังสือพิมพ์มาอ่านเยอะๆ ท่องศัพท์ในหนังสือพิมพ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ศัพท์ที่ให้มา ไม่ได้มีแต่ศัพท์ประหลาดๆยาวๆนะคะ ศัพท์ประหลาดๆแต่สั้นๆ เป็น adj. adv. มีหมด สรุปแล้ว ต้องอ่านเยอะๆอย่างเดียวเท่านั้น
ส่วนสุดท้าย reading โอ้ว.. ส่วนนี้ยากสุดค่ะ เพราะต้องมีสมาธิดีๆหน่อยไม่งั้นอ่านไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้แน่ๆและอาจจะทำไม่ทัน คือถ้าแบ่งเวลาไม่ดี ไปเสียเวลากับสองส่วนแรกมาก จะทำส่วนนี้ไม่ทัน ส่วนนี้มี 50 ข้อ ดูเหมือนควรจะให้เวลาในการทำเท่ากับสองส่วนแรก แต่อย่าลืมค่ะ ว่าเราต้องเสียเวลาในการอ่านโจทย์มาก และบางครั้ง อ่านครั้งเดียวไม่เข้าใจ ต้องอ่านซ้ำ อ่านซ้ำ เพราะฉะนั้น ควรให้เวลากับส่วนนี้เยอะๆหน่อยค่ะ
บอกทริ๊กง่ายๆในการทำข้อสอบ reading นะคะ (ที่เหลือต้องฝึกเอง) เวลาเห็น passage แล้วต้องสงบจิตสงบใจก่อนค่ะ อย่าตื่นเต้นหรือหมดกำลังใจ แล้วก็ข้ามส่วนนั้นไปก่อนค่ะ ...คือตกใจก็ข้ามๆมันไป ไปอ่านคำถามของแต่ละข้อก่อนดีกว่า จะได้รู้ว่าเค้าต้องการให้หาอะไรในเนื้อเรื่อง โจทย์ข้อแรกมักจะถามหา main idea วลาทำให้ข้ามไปก่อนค่ะ และข้อต่อๆมาก็จะมีพวก คำศัพท์ ยกคำนามที่อยู่ใน passage นั้นๆมาให้อธิบาย ถ้าเจอข้อไหน ถามหาอะไรอย่างนี้ ให้หาตำแหน่งคำนั้นๆใน passage ก่อนค่ะ ทำเครื่องหมายเอาไว้เลย ข้อพวกนี้จะทำไปตอนอ่านได้
สรุปได้ว่า ในข้อสอบ reading จะมีโจทย์อยู่สองแบบ (ถ้ายากแบบใน reading ของ GMAT อาจมีถึงสามค่ะ แต่ไม่ขอพูดถึงนะ) คือโจทย์ที่ถามเฉพาะจุด อย่างคำศัพท์ โจทย์พวกนี้ไม่ยากมาก เพราะไม่ต้องตีความ หาตำแหน่งให้เจอ ดูบริบทแล้วก็ทำได้เลย กับโจทย์ประเภท main idea, infer ไม่รู้จะเรียกยังไงดีค่ะ แต่โจทย์พวกนี้ถ้าจะทำ ต้องอ่าน passage ทั้งหมดแล้วตีความ เลือกตอบได้โดยวิธีตัดข้อผิดออกไป
เรื่องทริ๊กคงได้แค่นี้แล่ะค่ะ ถ้าละเอียดกว่านี้ ก็ต้องไปเปิดโรงเรียนกวดวิชาแล้ว สำหรับในวันนี้แนะนำมาไม่น้อยหวังว่าผู้อ่านที่จะไปสอบ TU-GET จะ GET IDEA กันไปเป็นแนวทางทำข้อสอบให้ได้คะแนนสูงๆกันทุกคนนะคะ
วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น